Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 4875 จำนวนผู้เข้าชม |
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “All New YZF-R15” สปอร์ตไบค์พิกัด 150 ซีซี. จากค่ายยามาฮ่า โดยโมเดลใหม่ล่าสุดปี 2017 นี้ ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งภายในและภายนอกภายใต้ DNA ตามแบบฉบับของสปอร์ตไบค์ในตระกูล R-Series อีกทั้งยังได้รับการเพิ่มเติมสมรรถนะและองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้มีความเป็น Super Sport มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเฟรมอลูมิเนียมแบบ เดลต้าบ๊อกซ์ ที่มีความแข็งแรงทนทาน สวิงอาร์มอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมกับการบาลานซ์น้ำหนักรถให้มีความสมดุลทั้งด้านหน้าด้านหลัง ซึ่งองค์ประกอบนี้จะส่งผลให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เมื่อขับขี่ All New YZF-R15 จะให้ความรู้สึกถึง Aerodynamic ที่ดีขึ้น
สำหรับ All New YZF-R15 ได้รับการออกแบบตัวรถที่เน้นความเพรียว เพิ่มความโฉบเฉี่ยวแบบรถสปอร์ต พร้อมไฟ LED ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย เพิ่มความดุดันให้กับตัวรถ ในส่วนของหน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์แบบ Full Digital ที่มีความทันสมัย ติดตั้งไฟบอกเกียร์ และไฟชิพไลท์เพื่อเตือนเมื่อถึงจังหวะเปลี่ยนเกียร์ รวมถึงยังสามารถปรับตั้งชื่อของผู้ขับขี่ได้ใน 6 ตัวอักษร พร้อมฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่พร้อมแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้ขับขี่อย่างครบครัน อีกทั้งยังคำนึงถึงการใช้งานของกลุ่มผู้ขับขี่สไตล์ทัวริ่งด้วยการการเพิ่มไฟฉุกเฉินสำหรับกรณีที่เกิดปัญหาในขณะเดินทางไว้ให้ด้วย
ในส่วนของประสิทธิภาพเครื่องยนต์ All New YZF-R15 นั้น ได้รับการพัฒนาใหม่แบบจัดหนักจัดเต็ม เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิ์ภาพสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องยนต์พิกัดเดียวกัน ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบ 155 ซีซี. ที่มาพร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน VVA (Variable Valve Actuation) ที่จะทำให้กำลังของเครื่องยนต์มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น แต่ยังคงอัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีได้อีกด้วย โดยเครื่องยนต์ของ All New YZF-R15 นี้จะให้กำลังสูงสุดที่ 14.2 kW ที่ 10,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 14.7 Nm ที่ 8,500 รอบต่อนาที ส่งผลให้ All New YZF-R15 สามารถตอบสนองความเร็วของผู้ขับขี่ได้อย่างเร้าใจในทุกรอบความเร็ว
นอกจากนี้ All New YZF-R15 ยังติดตั้งระบบ Assist features & Slipper Clutch หรือที่เราเรียกง่ายๆ ว่า “สลิปเปอร์ คลัทช์” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ติดตั้งในรถสปอร์ต Bigbike ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ถูกนำมาติดตั้งในรถสปอร์ตขนาดพิกัด 150 ซีซี. โดยระบบ “สลิปเปอร์ คลัทช์” จะทำให้การควบคุมคลัทช์ทำได้เบาและใช้งานได้ง่ายขึ้น และ “สลิปเปอร์ คลัทช์” ยังช่วยให้การลดเกียร์จากเกียร์สูงลงต่ำทำได้อย่างนุ่มนวลและทำให้ล็อคหลังไม่ล็อคตาย ในส่วนของโช้คหอัพหน้าก็เปลี่ยนมาเป็นแบบหัวกลับหรือ UpSide Down และสวิงอาร์มแบบใหม่ รวมถึงขนาดหน้ายางที่กว้างขึ้น โดยยางหน้าจะมีขนาด 100/80-17 และยางหลังขนาด 140/70-17 ซึ่งจะทำให้การควบคุมรถทำได้อย่างแม่นยำ ยึดเกาะพื้นถนนได้ดียิ่งขึ้น และให้ความมั่นใจด้วยระบบเบรกแบบดิสก์เบรกหน้าหลัง โดยจานเบรกหน้ามีขนาดใหญ่ 282 มม. ที่ช่วยให้การเบรกทำได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
Rider Comment : All New YZF-R15
หลังจากทำความรู้จักกับ “All New YZF-R15” กันเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้ก็ถึงเวลา “ลองของจริง” กันบ้าง...แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การทดสอบครั้งนี้เราอาศัยจังหวะช่วงที่ทางยามาฮ่าจัดกิจกรรมให้ผู้ขับขี่ทั่วไปได้สัมผัสกับเจ้า All New YZF-R15 ที่สนามโกคาร์ทที่บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงของการแข่งขัน ARRC สนาม 2 ที่จัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต…จึงทำให้เรามีโอกาสได้ทดสอบขับขี่ในรูปแบบของเรซซิ่งเซอร์กิตแบบย่อมๆ ที่แม้อาจจะไม่ได้เค้นสมรรถนะกำลังเครื่องยนต์ออกมาได้เต็มที่นัก แต่ก็ถือได้ว่าสัมผัสกับความเป็นสปอร์ตไบค์ของ All New YZF-R15 กันได้แบบเต็มเหนี่ยวเช่นกัน!!!
เริ่มจากสัมผัสแรกที่ได้คร่อม All New YZF-R15 เรารู้สึกได้ถึงความแตกต่างจาก R15 เวอร์ชั่นเดิมได้ค่อนข้างชัดเจน มิติตัวรถให้ความกระชับเข้ากับหว่างขาได้แบบพอดิบพอดี ซึ่งน่าจะมาจากถังน้ำมันที่มีรูปทรงใหญ่ขึ้นและเบาะนั่งที่กว้างขึ้น ทำให้ช่วงล่างของผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ และเมื่อโน้มตัวไปจับแฮนเดิ้ลบาร์ก็รู้สึกได้ถึงท่านั่งที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน มันมีความสปอร์ตแบบเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม แต่เรายังสัมผัสได้ถึงความสบายในการควบคุมบังคับแฮนด์ได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งด้วยลักษณะท่านั่งที่กล่าวมานี้มันจะทำให้เราสามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัวในเวลาที่ขับขี่ใช้งานบนท้องถนนทั่วไป และยังให้ความสนุกเร้าใจเมื่อเอา All New YZF-R15 ไปลงแทร็คขับขี่ในสนามแข่งนั่นเอง
ในส่วนพละกำลังเครื่องยนต์นั้น แน่นอนว่า All New YZF-R15 มันจี๊ดจัดจ้านขึ้นกว่าเดิมด้วย ซีซี. ที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราเร่งบิดมันส์กว่าเดิม ทั้งในช่วงรอบต่ำและรอบกลาง ซึ่งเรารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าในจังหวะที่ยิงออกจากโค้งนั้นมันมาเร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อระบบวาล์วแปรผัน VVA ทำงาน (7,500 รอบต่อนาที) อัตราเร่งมันติดมือในทุกจังหวะการเปิดคันเร่งเลยทีเดียว และยิ่งขี่สนุกมากขึ้นเมื่อมีระบบ “สลิปเปอร์ คลัทช์” ที่นอกจากช่วยให้การบีบคลัทช์เข้าเกียร์สบายมือมากยิ่งขึ้นแล้ว ในจังหวะที่ลดเกียร์ลงต่ำ 2-3 เกียร์ก่อนเข้าโค้งนั้นทำให้ล้อหลังไม่ล็อคตาย เป็นผลให้การทรงตัวของรถมีความมั่นคงและเสถียรช่วยให้เราคอนโทรลรถก่อนเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เรารู้สึกได้ว่า All New YZF-R15 มันเจ๋งขึ้นก็คือ ระบบส่วนล่าง ทั้งในส่วนของโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ หรือ UpSide Down และโช้คอัพหลังเดี่ยวแบบ LINK-TYPE MONOCROSS ที่มาพร้อมกระเดื่องทดแรง และขนาดยางหน้า-หลังที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้การยึดเกาะแทร็ค “หนึบ” ยิ่งขึ้น จังหวะการพลิกเข้าโค้งซ้ายขวาแบบต่อเนื่อง หรือการเข้าโค้งด้วยความเร็ว หรือจังหวะการกระแทกคันเร่งออกจากโค้ง ช่วงล่างทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ออกการยวบย้วยให้รถเสียอาการ ทำให้เราสามารถขับขี่ในแบบเซอร์กิตได้อย่างสนุกเร้าใจ รวมถึงระบบเบรกแบบดิสก์เบรกหน้า-หลัง ที่ช่วยให้สามารถชะลอความเร็วของรถลงได้อย่างนุ่มนวลแม้ว่าบางจังหวะจะเผลอเบรกหนักมือไปบ้างก็ตาม
โดยหลังจากที่ลองขับขี่ All New YZF-R15 อยู่ในแทร็คพักใหญ่ เราก็รู้สึกประทับใจกับสมรรถนะของสปอร์ตไบค์คลาส 150 สายพันธุ์ R-Series คันนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับการพัฒนาปรับปรุงทั้งในส่วนของกำลังเครื่องยนต์และรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด จนทำให้เรารู้สึกได้ถึงฟิลลิ่งแบบรถสปอร์ตอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นกำลังเครื่องยนต์ที่จัดจ๊านขึ้น ออฟชั่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาช่วยให้สมรรถนะการขับขี่มีความเร้าใจมากขึ้น ท่านั่งขับขี่ที่ให้ความสปอร์ตมากขึ้นแต่ยังสามารถที่จะคุมรถได้อย่างสบาย รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่ “หล่อ” ไม่แพ้รถสปอร์ตรุ่นใหญ่เลยทีเดียว...
ผู้ที่สนใจ All New YZF-R15 ด้วยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th หรืออัพเดทความเคลื่อนไหวของยามาฮ่าได้ทาง www.facebook.com/yamahasocietythailand, Instagram: @yamahasocietythailand และ Youtube: Yamaha society Thailand
Specification : All New YZF-R15
เครื่องยนต์ : เครื่องยนต์ 4 จังหวะ, SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
จำนวนสูบ : ลูกสูบเดี่ยว
ความจุ : 155.1 cc
กระบอกสูบ x ระยะชัก : 58 x 58.7 mm
อัตราส่วนกำลังอัด : 11.6 : 1
กำลังสูงสุด : 19.3 แรงม้า / 10,000 รอบ
แรงบิดสูงสุด : 14.7 Nm / 8,500 รอบ
ขนาดถังน้ำมัน : 11 ลิตร
ระบบจ่ายน้ำมัน : หัวฉีด
ระบบคลัทช์ : Wet Type Multi-Plate Clutch
ขนาดยาง (หน้า/หลัง) : 100/80-17M/C 52P (หน้า) 140/70-17M/C 66S (หลัง)
ขนาด ยาว x กว้าง x สูง : 1,990 x 725 x 1,135 mm
ความสูงเบาะ : 815 mm
ฐานล้อ : 1,325 mm
น้ำหนักรวมของเหลว : 137 kg