Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 1714 จำนวนผู้เข้าชม |
จากการเปิดตัว YAMAHA YZF-R7 ที่ยามาฮ่าส่งเข้ามาเติมเต็มไลน์อัพสปอร์ตไบค์ สานต่อความสำเร็จ Racing Series ที่โดดเด่นด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว ถ่ายทอด Racing DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายยามาฮ่าในพิกัดเครื่องยนต์ 700 ซีซี ไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระแสการตอบรับจากกลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ในเมืองไทยก็เป็นไปอย่างคึกคักอย่างมาก และตอกย้ำกระแสความแรงด้วยการจัดกิจกรรม “First Experience Exclusive Press Test YAMAHAYZF-R7 in World Circuit” ที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทำการทดสอบขับขี่กันในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เพื่อได้สัมผัสกับสมรรถนะกันแบบเต็มที่...
แต่ก่อนที่จะลงสนามทำการทดสอบขับขี่ เรามาพูดคุยกับผู้บริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กันก่อน โดยครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย นายธนะชัย เลขวณิชกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจบิ๊กไบค์ ที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สอบถามถึงข้อมูลตัวรถ แผนการตลาด เกี่ยวกับ R7 กันอย่างเต็มที่ ซึ่งบทการสัมภาษณ์ก็มีดังต่อไปนี้...
Q : จากที่ได้ทำการเปิด R7 ยามาฮ่าวางแผนอย่างไรที่จะทำตลาด R7 ในประเทศไทย เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับกลุ่มลูกค้า R6 เพราะว่าซีซี. และพิกัดของทั้ง 2 รุ่นนี้ ค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกัน
A : อยากจะพูดถึงพื้นฐานก่อนเรื่องกลุ่มเป้าหมายของ R7 จากที่ประสบความสำเร็จเรื่องการทำตลาด R-Series มาทั้งหมด R7 เนี่ยวางจุดตำแหน่งสินค้าไว้ว่าหลักๆ มี 3 กลุ่มนะครับกลุ่มแรกคือคนที่อยากเซ็ทอัพเป็นบิ๊กไบค์ กลุ่มที่สองคือคนที่ขี่เรซซิ่งอยู่แล้ว และอยากจะเทียบอีกแบรนด์ดูบ้าง และกลุ่มที่สามคือกลุ่มที่อยากได้ทั้งคู่ คืออยากจะมีรถทั้งแบบเรซซิ่งและการขี่ขับขี่ท่องเที่ยว คือตรงนี้เป็นรถที่ตอบสนอง DNA ทางด้านรถเรซซิ่งและก็รถที่ขี่สนุกสนานด้วยทัวริ่งได้ด้วย ตรงนี้ก็คิดว่าเป็นกลุ่มที่ R7 จะสามารถเดินไปได้ ส่วน R6, R1 จะเป็น Top Class เราตั้งใจทำรุ่นนี้ออกมาเป็นกลุ่มที่เจาะทั้งสามกลุ่มนี้ แล้วก็ราคาจับต้องได้ด้วย 339,000 บาท คิดว่าคุ้มค่านะครับก็คิดว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ แล้วก็เราก็รู้จากการสัมผัสลูกค้ามาอยู่เรื่อยๆ นะครับว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้ซื้อรถแล้วก็ขี่ไปคนเดียว แต่อยากได้ประสบการณ์หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกขับขี่ซึ่งทำได้ดีในเรื่องของ YRA สอนเรื่องเทคนิคการขับขี่แบบเรซซิ่งด้วย ก็มีเรื่องเบสิค แล้วก็แอดวานซ์ให้ด้วย และคนที่เข้ามาสัมผัสกับหลักสูตรของเรา แล้วก็อีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มที่ชอบท่องเที่ยวไปด้วยนะ เราก็จะมีจัดกลุ่มท่องเที่ยวที่จะมีทริปต่างๆ ที่จะนำเสนอขึ้นมา ก็เชื่อว่าจะชัดเจนและขยายฐานได้ดี
Q : วางเป้ายอดขายไว้ของ R7 อย่างไร
A : ปีนี้เนี่ยเหลือแค่ 3 เดือน คิดว่าน่าจะได้สัก 250 คัน คือเรามองเป็นช่วงเวลา อีกสัก 3 ปีข้างหน้าผมคิดว่าน่าจะได้สัก 2,000 คัน
Q : เป็นผลจากการที่เราวางเรื่องโปรโมชั่นเรื่องยอดจองไว้ด้วยไหมครับ
A : ใช่ครับ เพราะตรงนี้นี่คือจากที่เปิดตัวกันที่อเมริกา, ยุโรป ผลตอบรับดีมาก ส่วนที่อเมริกาเปิดไป 3 เดือน ซื้อไปแล้วเป็นพันคัน คิดว่าตรงนี้ความสำเร็จนี้จะประสบความสำเร็จในเมืองไทย ซึ่งตอนช่วงที่ไลฟ์สดเปิดตัวก็มีเปิดให้จอง 200 คันแรก แล้วตอนนี้ก็รับรถไปบางส่วน ตอนนี้ล่าสุดยอดจองก็อยู่ประมาณ 150 คัน
Q : อะไรคือจุดเด่นหรือแรงดึงดูดที่จะทำให้ผู้ขับขี่รถสปอร์ตให้ความสนใจกับ R7 มากกว่ารถสปอร์ตที่มีอยู่ในตลาดของเมืองไทยในปัจจุบันนี้
A : อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัว R7 คาแรคเตอร์รถกับ R6 ใกล้เคียงกัน แต่การดีไซน์ที่ออกมาคือต้องบอกว่ามันถอดแบบหรือว่ามันได้อารมณ์ความรู้สึกของ R-Series ซึ่งถ่ายทอดมาจากรุ่นพี่ แต่การดีไซน์เนื่องจากว่ามันเป็นเครื่อง 2 สูบ เบา แล้วการดีไซน์ตัวโครงมันเพียว เพราะงั้นเขาตั้งใจว่ากลุ่มคนที่เป็นลูกค้าเนี่ยเป็นคนที่ไม่ได้มุ่งเน้นในการขับขี่ในสนามเพียงอย่างเดียว แต่ยังชอบใช้ชีวิตประจำวันหรือการขับไปทัวริ่งต่างๆ เพราะเนื่องจากการดีไซน์ออกมาทำให้รถมันขี่สนุก การ cornering ดี เครื่องยนต์แบบ Crossplane 2 สูบ ทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าเน้นเรื่องอัตรา torque เพราะ torque จะมาในช่วงกลางๆ เวลาขับขี่ ผมว่าในชีวิตประจำวันไม่มีใครใช้ Maximum Speed ได้ตลอด ส่วนใหญ่ก็อยากจะได้ torque อยากได้อัตราเร่งแซงใช่ไหมครับ เพราะอันนี้มันมารอบกลาง เพราะฉะนั้นในการที่จะเปิดหรืออกไปมันส์สนุกกับโค้ง ซึ่งพอได้ลองแล้วรู้ว่าตัว R7 เวลาเราต้องการเร่งแซงหรืออะไรอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องเชนจ์เกียร์ลงต่ำ แค่เปิดคันเร่งมันดึงพละกำลังออกมาได้เลย ซึ่งมันก็สนุกนะครับ คือถ้าเทียบกับ R6 อาจจะต้องลากรอบที่สูงหน่อยแต่อันนี้มันก็เป็นความสนุกอีกแบบหนึ่ง เพราะงั้นมันก็สนุกมันขี่ได้แบบในชีวิตประจำวันเนี่ยต้องการความสนุกมันมา ไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูงเลย แล้วก็ตัวช่วงล่างต้องขอบอกเลยว่า อันนี้มันที่สุดในคลาสแล้ว ก็คือ R7 สามารถปรับได้หมดไม่ว่าจะเป็น pre-load จะเป็น rebound จะเป็น compression ซึ่งมันหาไม่ได้ในคลาสเดียวกัน ข้างหลังก็ปรับได้ทั้ง pre-load ทั้ง rebound ซึ่งคุณสามารถสนุกกับถนน คุณจะปรับให้มันนุ่มหน่อย หรือว่าคุณจะลงสนามปรับให้มันแข็งหน่อยมันทำได้หมด ได้ดั่งใจนี่คือสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ R7 ต้องไปลองครับ
Q : ในมุมของลูกค้า R7 ซึ่งเป็นไลน์อัพใหม่ ลูกค้าก็เป็นกลุ่มใหม่ที่กว้างขึ้น ยามาฮ่าจะบอกเขายังไงว่านี่คือ Street Used ที่เขาสามารถใช้ในชีวิตประจำวันหรือท่องเที่ยวได้ อย่างที่เราตั้งเอาไว้ มันจะต้องมีกิจกรรมแบบไหน
A : คืออย่างนี้ครับ ตัว riding positon ของ R7 ถ้าเทียบกับ R6 จะต่างกันนิดหน่อย เพราะงั้นมันจะดูแล้วไม่ก้มมาก แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ Sport Touring เหมือน R3 มันอยู่ระหว่างตรงกลาง ซึ่งถามว่าถ้าคนที่ชอบสาย sport ตรงนี้ position มันคือ sport แต่ว่ามันจะไม่ต้องก้มเท่า R6 แล้วก็ตัวกิจกรรมของยามาฮ่า เราไม่ได้มีแค่ Track ในสนาม เราจะมีตั้งแต่ขับขี่ปลอดภัย สอนตั้งแต่แรก ซึ่งขับขี่ปลอดภัยเนี่ยคุณก็สามารถไปทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ได้เลย แล้วก็เรื่องของ Touring เรามี Touring อยู่ทุกปีไป unseen หรือ unexpected เส้นทางที่สวยๆ ซึ่งถ้าเป็นของ R7 เราก็จะพยายามหาเส้นทางสวยๆ เพราะว่าคนที่ขับรถสายสปอร์ตจะชอบอารมณ์ถนนประมาณนั้น คือจริงๆ ทั้ง R7 หรือรถทุกรุ่นของยามาฮ่า เราก็จะมี touring อยู่แล้ว ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ถ้าไม่มีเรื่องของโควิดหรือกฎหมายห้าม แล้วในเรื่องของใน Track มันก็มีอยู่แล้วตลอด...ที่จริงโดยตัวรถ ผมมองว่าเน้นเรื่อง Safty Riding มากกว่า Track เพราะเราใช้เดินทาง เพราะว่าถ้าผู้ใช้มีความรู้ การขับขี่การเดินทางเขาสามารถที่จะปรับท่านั่งได้ ก็จะช่วยได้เยอะ เพราะบางคนที่เมื่อยก็เพราะท่านั่งไม่ถูกต้องมันก็ทำให้ขับขี่ได้ไม่ไกล
Q : ตอนนี้ถ้าลูกค้าสนใจ R7 สามารถสั่งจองได้ทางไหนบ้าง ผ่านทาง Rider’s Club โดยตรง หรือว่าตาม Rider’s Club ทั่วประเทศที่เป็นดีลเลอร์
A : ได้ที่ Rider’s Club ทั่วประเทศเลยครับ มีรถโชว์อยู่ทุกที่ พร้อมรับจองครับ โดยโปรโมชั่นตอนนี้ คือ ดาวน์ 7,900 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.95% ผ่อนต่อเดือน 60 งวด ก็ตกประมาณ 6,000 บาท ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เราออกมาเราเซ็ทราคาที่ลูกค้าเอื้อมถึง เราต้องการให้ลูกค้าจับต้องได้ไม่ยากเลย ส่วนเรื่องกิจกรรมอย่างที่บอกไว้ ต้องเรียนอย่างนี้ว่า ขับยามาฮ่าไม่มีเหงา คนที่เป็นลูกค้ายามาฮ่าไม่มีเหงารับรองได้ เรามีกิจกรรมให้คุณทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสนาม หรือว่าจะไปทัวริ่ง
Q : อยากให้ทางยามาฮ่าฝาก R7 ถึงผู้ขับขี่ที่เป็นลูกค้าทั่วๆ ไปที่กำลังสนใจ อยากฝากอะไรเป็นพิเศษ หรือสิ่งจูงใจให้เข้ามาสนใจ R7 หน่อยครับ
A : ของมันต้องมีครับ ถ้าเป็นได้อยากให้มาดูที่ YRC ทั่วประเทศ 15 สาขา ที่ยินดีให้การต้อนรับ และตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เราก็จะมีทดสอบกระจายไปทั่วประเทศ จริงๆ อยากให้มาดูตัวจริง งานประกอบหรือ material มันชื่อ Made in Japan ผมว่ามันสุดในคลาสจริงๆ ครับ!!!
21 พ.ย. 2567