“รัฐบาล” ชวนแฟน MotoGP ทั่วโลกร่วมนับถอยหลัง 15 วันสู่กรังด์ปรีซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกบนแผ่นดินไทย พร้อมเปิดตัวโทรฟี่เวอร์ชั่น 2023

Last updated: 2 ต.ค. 2567  |  653 จำนวนผู้เข้าชม  | 

“รัฐบาล” ชวนแฟน MotoGP ทั่วโลกร่วมนับถอยหลัง 15 วันสู่กรังด์ปรีซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกบนแผ่นดินไทย พร้อมเปิดตัวโทรฟี่เวอร์ชั่น 2023

   กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน แถลงนับถอยหลังและเปิดตัวโทรฟี่ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ 2023” หรือถ้วยโมโตจีพี สนามประเทศไทย เลอค่า อร่ามตาด้วยธีมสีทองสุดอิลิแกนซ์ แรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ผ่านช่องประตูทั้ง 15 บาน ของปราสาทหิน “พนมรุ้ง” ผสานให้เกิดแรงจูงใจในการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างลงตัว พร้อมเผยยุทธศาสตร์ความร่วมมือแบบบูรณาการเน้นการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน รองรับผู้ชมในสนามหลายแสนคน ถ่ายทอดสดความยิ่งใหญ่ 200 ประเทศทั่วโลก สู่ผู้ชม 800 ล้านคน จารึกประวัติศาสตร์โมโตจีพีที่ดีที่สุด และน่าประทับใจที่สุดแก่แฟนความเร็วทั่วโลกอีกครั้ง


   กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดแถลงข่าวนับถอยหลังก่อนเปิดบ้านเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” (OR Thailand Grand Prix 2023)ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่าง 27 – 29 ตุลาคม 2566 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์


   11 ตุลาคม 2566 ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพ : นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้สนับสนุนภาครัฐและเอกชน นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย, จังหวัดบุรีรัมย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมการขนส่งทางบก, บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์, บริษัท ทศภาค จำกัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด รวมทั้งสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์และผู้สนับสนุนร่วมงานมากมาย


   ภายในงานมีพิธีนับถอยหลัง 15 วันสู่การแข่งขันโมโตจีพี รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” ท่ามกลางการรอคอยของแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและทั่วโลก กับการเป็นเจ้าภาพปีที่ 4 พร้อมเปิดตัว โทรฟี่ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ 2023” หรือ “ถ้วยรางวัลโมโตจีพี สนามประเทศไทย” เลอค่า อร่ามตาด้วยธีมสีทองสุดอิลิแกนซ์ ออกแบบโดยอิงรูปแบบจากปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ “พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ผ่านช่องประตูทั้ง 15 บาน” ของปราสาทหิน “พนมรุ้ง” จังหวัดบุรีรัมย์ โดยแสงที่ลอดมาเป็นสีทองและภาพจำ ในความ Unseen และสถาปัตยกรรมฝีมือช่างโบราณที่คนทั่วโลก ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต ผสานให้เกิดแรงจูงใจในการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างลงตัว


   นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ด้วยการทำงานอย่างหนักของการกีฬาแห่งประเทศไทยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะต้อนรับผู้ชมและนักท่องเที่ยวนับแสนคนที่จะมุ่งหน้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์

   “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ความเชื่อมั่นว่า จะให้การสนับสนุนและผลักดันโมโตจีพีสนามประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้เป็นโมโตจีพีที่ดีที่สุด และผู้ชมมีความสุขที่สุด ประทับใจที่สุดในโลกเช่นเคย เพื่อแสดงศักยภาพการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลกฝีมือคนไทยให้โลกได้ประจักษ์ รองรับผู้ชมในสนามหลายแสนคน ถ่ายทอดสดความยิ่งใหญ่ไปกว่า 200 ประเทศทั่วโลก สู่ผู้ชมกว่า 800 ล้านคน”


   “การจัดมหกรรมกีฬาระดับโลกนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของนโยบาย Sport Tourism ที่เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนทั้งในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมของประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าปีละ 4,000 ล้านบาท เป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในมิติด้านสังคม ส่งเสริม และกระตุ้นให้เยาวชนที่ชื่นชอบกีฬามอเตอร์สปอร์ต พัฒนาตนเองไปสู่กีฬาอาชีพในอนาคต เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง”

   นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมา จังหวัดบุรีรัมย์มีการบูรณาการความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆทั้ง ภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง โดยบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม มีหน่วยงาน เจ้าภาพในทุกจุดทุกด้านโดยตรง ทั้งด้านคมนาคมขนส่ง เตรียมพร้อมตั้งแต่สนามบิน เพื่อรองรับ Charter Flight ขนาดใหญ่จากต่างประเทศ การจราจร สถานที่จอดรถ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ประชุมซักซ้อมความเข้าใจเป็นระยะ ให้ดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นและไร้รอยต่อ


   “สิ่งที่ดีเรารักษามาตรฐาน ปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ด้วยมาตรฐานบุรีรัมย์ แสตนดาร์ด ยังคงได้แรงหนุนจากกำลังสำคัญ คนเล็กหัวใจใหญ่ อาสาเข้ามาช่วยดูแลต้อนรับและอำนวยความสะดวกอย่างเข้มแข็งเช่นเคย โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีทีม Ask me ที่สื่อสารภาษาอังกฤษหลายร้อยคนคอยให้ข้อมูลและเจ้าหน้าที่ GU เก็บ กว่า 500 คน เพื่อดูแลพื้นที่จัดงานมีบริการรับ-ส่ง ฟรี สำหรับนักท่องเที่ยวตามเส้นทางหลักๆภายในตัวเมืองบุรีรัมย์ รวมถึงกองทัพชัตเติ้ลแต๋นชาวบุรีรัมย์ที่รอต้อนรับทุกท่าน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต”

   นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า โออาร์ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เกิดอีเว้นต์ยิ่งใหญ่ที่สำคัญกับประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและสร้างความสุขความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานตลอดมา


   “ในปีนี้เราได้เตรียมกิจกรรมสุดพิเศษและสิทธิพิเศษต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตจากทุกมุมโลก เริ่มจาก โออาร์ พาวิลเลียน (OR Pavilion) ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการขยายพื้นที่จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ อาทิ ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants, FIT Auto และเอาใจแฟนโมโตจีพีด้วยคอลเลคชั่นของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ MotoGP Limited Edition สวยงาม น่าสะสม บริเวณ OR Pavilion และ Welcome Zone รวมทั้งมีจอถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์ อิ่มอร่อยกับเครื่องดื่มจาก Café Amazon, ไก่ทอด Texas Chicken, โอ้กะจู๋ ฯลฯ โดยมีไฮไลต์สำคัญที่บูธ xplORe ให้ร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลมากมาย”

   นายสุรพล อุทินทุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทศภาค จำกัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง กล่าวว่า หนึ่งในไฮไลต์ของการจัดโมโตจีพีประเทศไทยที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุด นอกจากจะได้ชมเรซที่สนุก แฟนความเร็วจากทั่วโลก ยังได้สนุกสนานไปกับมอเตอร์สปอร์ตเฟสติวัล กิจกรรมบันเทิงควบคู่ไปกับการจัดการแข่งขันกีฬา ทางเครื่องดื่มตราช้าง ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโมโตจีพีที่มีความสุขที่สุดในโลก


   “เราต้อนรับแฟนๆ ตั้งแต่ประตูทางเข้าด้วย Chang Shuttle Station รถรับ-ส่งฟรีตลอดงาน หลังจบการแข่งขันของทุกวัน ทาง “ช้าง” ได้เตรียมกิจกรรมให้ร่วมสนุกตลอดทั้ง 3 วัน เริ่มจากเย็น วันศุกร์ พบกับคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ F.Hero และ ซานิ ส่วนวันเสาร์ นอกจากจะมีศึก “มวยไทย วิถีถิ่นไทย” คู่มวยแถวหน้าของประเทศ ยังมีคอนเสิร์ตลูกทุ่งดัง 100 ล้านวิว เนสกาแฟ ศรีนคร และ บุ๊ค ศุภกาญจน์ ส่งท้ายวันอาทิตย์ ด้วยวง KLEAR ที่จะมามอบความสุขส่งท้าย เป็นการปิดงานไทยจีพี 2023 อย่างสมบูรณ์แบบ ภายในงานยังมีโซน Chang House ให้แฟนๆได้รับชมการถ่ายทอดสดบนจอ LED ขนาดใหญ่ และนั่งชิลล์ตลอดทั้งวันอีกด้วย”

   ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ยังได้จัดทำ Line Official, Website 2 ภาษา ทั้งไทยและอังกฤษ บริการข้อมูลสำคัญด้านต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถสแกน QR Code เช็คข้อมูลที่จำเป็นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นผังของงาน จุดจอดรถ จุดบริการรถรับส่ง ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว

   ปีนี้เรียกได้ว่าจะเป็นปีที่มีความสุขที่สุดของแฟน MotoGP ประเทศไทย เพราะนอกจากจะได้เชียร์นักบิดระดับโลกที่ชื่นชอบ ยังมี “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดยอดฝีมือคนไทยเพียงหนึ่งเดียวที่คว้าแชมป์รุ่นโมโต 2 มาครองสำเร็จได้ถึง 2 ครั้งและในรุ่นโมโต 3 ยังมีทีเด็ด ไวลด์การ์ดจากยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีมอย่าง “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ให้ได้เชียร์กันอย่างสนุกในโฮมเรซ


   นอกจากนี้ยังมี “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เอ็กซ์โป” ตลอด 3 วัน ฟรี! สำหรับผู้ถือบัตรเข้าชมการแข่งขันทุกประเภท หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) ราคา 100 บาทต่อวัน หรือ 3 วัน 200 บาท สามารถผ่านเข้าสู่ลานกิจกรรมสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมชมคอนเสิร์ต, มวย, ชม ชิมและช้อปสินค้า อาหารอร่อย ของดีของดัง, พาวิลเลียนขนาดยักษ์ของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อผู้เข้าชมงานได้ร่วมสนุก อาทิ โออาร์ พาวิลเลียน, พาวิลเลียนของค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดังต่างๆ เช่น ฮอนด้า, ยามาฮ่า ฯลฯ โดยแฟนๆ สามารถเลือกซื้อของที่ระลึกโมโตจีพีต่างๆ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับมอเตอร์ไซค์, สินค้าของตกแต่ง, สินค้ามอเตอร์สปอร์ต , กิจกรรมที่น่าสนใจจากภาครัฐและเอกชน, Meet & Greet นักบิดระดับโลกจากค่ายรถจักรยานยนต์ รวมทั้งร้านค้าต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน

   แฟนความเร็วซื้อบัตรชมการแข่งขันได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) ซื้อบัตรได้ที่บูธ Allticket หน้างาน วันที่ 27-29 ต.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้