Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 1175 จำนวนผู้เข้าชม |
เปิดฤดูกาลการแข่งขันชิงความเป็นเจ้าแห่งความเร็วสองล้อทางเรียบแล้ว สำหรับศึกชิงแชมป์ประเทศไทย FMSCT All Thailand SuperBikes Championship 2018 ซึ่งในปีนี้มีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 9 สนามด้วยกัน และระเบิดความมันส์กันในสนามแรกด้วยรายการ R2M Thailand SuperBikes Championship 2018 สนามที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤษภาคม 2561 ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต จ.นครปฐม โดยขุนพลนักบิดยามาฮ่าทีม “YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM” มาพร้อมกับฟอร์มการขับขี่ที่แข็งแกร่งด้วยการกระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R1 ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมผงาดยืนโพเดี้ยมได้อย่างเหนือชั้น!!!
สำหรับศึกชิงบัลลังก์ “แชมป์ประเทศไทย” ปีนี้ ยอดทีมแข่งของเมืองไทยอย่าง “YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM” หมายมั่นที่จะทวงแชมป์ประเทศไทยกลับคืนสู่ทีมให้ได้ โดยมุ่งไปที่รุ่นใหญ่สุดอย่างรุ่น R2M SuperBikes 1000 Professional SB1 ซึ่งนำทัพโดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี ที่คว้าตำแหน่ง “รองแชมป์ประเทศไทย” รุ่นนี้ในปีที่ผ่านมา และ โซ่-อานนท์ สังวาลย์ เจ้าของตำแหน่ง “แชมปประเทศไทย” รุ่น R2M SuperBikes 1000 Professional ST1 ปี 2017 ที่ร่วมผนึกกำลังเตรียมไล่ล่าแชมป์กลับคืนสู่ทีมยามาฮ่าในปีนี้ให้ได้ โดยใช้รถแข่งซึ่งเป็นพี่ใหญ่แห่งตระกูล R-Series อย่าง Yamaha YZF-R1 ลงสนามชิงชัย!!!
โดยนักบิดยามาฮ่าทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ประเดิมหัวม้วนเอาฤกษ์เอาชัยในเกมแรกของปีนี้ด้วยการคว้าตำแหน่ง “โพลโพซิชั่น” จากรอบการควอลิฟายหาตำแหน่งสตาร์ทของรุ่น R2M SuperBikes 1000 Professional SB1 ได้สำเร็จ จากผลงานของนักบิดซุปตาร์ของทีม ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ด้วยการทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’20.306 นาที ได้ออกสตาร์ทแถวหน้าจากกริดที่ 1 ส่วนทีมเมทสุดซ่าส์อย่าง โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ขยับขึ้นมาขี่รุ่นใหญ่ที่แรงกว่าเป็นปีแรกทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’22.164 นาที รั้งอยู่ในตำแหน่งสตาร์ทกริดที่ 5 ซึ่งอยู่ในแถวสอง ทำให้สองนักบิดยามาฮ่ามีโอกาสลุ้นยืนโพเดี้ยมคู่ได้ในการชิงชัยสนามแรกของปีนี้
สำหรับในรอบการชิงชัยศึกชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ R2M Thailand SuperBikes Championship 2018 สนามที่ 1 รุ่น R2M SuperBikes 1000 Professional SB1 ซึ่งทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 17 รอบของสนามไทยแลนด์ เซอร์กิต ที่มีระยะทางต่อรอบอยู่ที่ 2.50 กม. โดยลงทำการแข่งขันท่ามกลางอุณหภูมิที่กำลังร้อนระอุแม้จะเป็นช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. แล้วก็ตาม เมื่อนักแข่งเข้าประจำกริดสตาร์ทพร้อมทำการแข่งขัน ทันทีที่สัญญาณไฟแดงสตาร์ทดับลง ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ที่ออกสตาร์ทได้อย่างเฉียบคมก็สามารถทะยานขึ้นเป็นผู้นำคว้าโฮลช๊อตในโค้งแรกได้สำเร็จ โดย โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 คู่หูนักบิดทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ที่ออกสตาร์ทจากกริดด้วยจังหวะที่ดีก็สามารถทะยานขึ้นมาเกาะติดอยู่ในกลุ่มนำตั้งแต่ต้นเกมเช่นกัน
โดยการแข่งขันในช่วงแรก ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 รั้งตำแหน่งหัวแถวไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งคู่แข่งคนสำคัญที่เป็นกระดูกชิ้นโตและเคยผ่านศึก Moto2 มาแล้วอีกทั้งยังเป็นแชมป์เก่าอย่าง ติ๊งโน้ต – ฐิติพงษ์ วโรกร #100 ก็คอยกดดันอยู่ด้านหลังแบบหายใจรดต้นคอทำให้เกมการแข่งขันเดือดระอุไม่แพ้อุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ในทุกโค้งทุกรอบของการแข่งขัน ส่วน โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 เองก็ตามอยู่ด้านหลังอยู่พอสมควรเนื่องจากเสียจังหวะไปเล็กน้อยในช่วงรอบที่ 2 ทำให้หลุดออกไปจากกลุ่มนำทันที
หลังจากที่นักบิดทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM รั้งตำแหน่งผุ้นำอยู่ได้ถึง 6 รอบ ก็ถูกคู่แข่งเสียบแซงขึ้นมาได้ แต่ ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ก็ยังคงฮึดสู้กดคันเร่งได้บี้ ติ๊งโน้ต – ฐิติพงษ์ วโรกร #100 อยู่ด้านหลังแบบเกาะติด ซึ่งเวลาต่อรอบของทั้งคู่นั้นเท่ากันอยู่หลายรอบเลยทีเดียว ทำให้กองเชียร์ของแต่ละทีมได้ลุ้นกันอย่างตื่นเต้น จนกระทั้งเหลือ 4 รอบสุดท้าย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 เสียจังหวะเล็กน้อยในช่วงแซงรถแข่งที่ถูกน็อครอบในช่วงโค้ง 1 จึงคู่แข่งผู้นำยืดระยะออกไปได้เล็กน้อย แต่ด้วยสภาพยางที่เริ่มหมดบวกกับการขี่เวลาต่อรอบที่ใกล้เคียงกันอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ยากที่ ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 จะจี้ติดเข้ามาได้อีกครั้ง ทำให้เมื่อจบเกมการแข่งขันทั้ง 17 รอบสนาม นักบิดซุปตาร์ของทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 เข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 2 พร้อมกับขึ้นยืนโพเดี้ยมรุ่น R2M SuperBikes 1000 Professional SB1 ในที่สุด ส่วนทีมเมทอย่าง โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่มีปัญหาเรื่องการเซ็ทอัพรถที่ยังไม่ลงตัว ทำให้ไม่สามารถที่จะกดเวลาไล่ขยับตำแหน่งขึ้นมาได้ แต่ก็ยังสามารถประคองตัวเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 5 เมื่อจบการแข่งขันในที่สุด!!!
นอกจากนี้นักบิดในสังกัด YAMAHA THAILAND RACING ที่ลงทำการแข่งขันในทีมที่ยามาฮ่าให้การสนับสนุนก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน โดยในรุ่น R2M SuperBikes 1000 Professional ST1 ตี – อนุภาพ ซามูล #500 สามารถนำรถแข่ง YZF-R1 คว้าอันดับที่ 1 และ เบิร์ด - ประวัติ ญาณวุฒิ #95 จบอันดับที่ 2 ส่วนในรุ่น R2M SuperSports 600 Professional SS1 ต๋ง – พีระพงษ์ บุญเลิศ #55 และ ฟอง – คณาฑัต ใจมั่น #90 ก็สามารถบิดคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 คว้าดับเบิ้ลโพเดี้ยมอันดับที่ 1 – 2 ได้ตามลำดับเช่นกัน
บทสัมภาษณ์ทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM หลังจบการแข่งขัน
ซุป - อนุชา นาคเจริญศรี #10
“เกมในปีนี้ถือว่ามีตัวแปรที่เป็นคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น บอล – สุหทัย แช่มทรัพย์ รวมถึง โซ่ – อานนท์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทีม ซึ่งผมก็มองว่าเกมวันนี้น่าจะสูสีกันและต้องสู้กันหลายรอบอย่างแน่นอน โดยวันนี้ผมออกสตาร์ทได้ดีและก็กะว่าจะปั่นนี้ออกไปทันทีแต่ก็หนีไม่ออก เพราะคู่แข่งก็เกาะติดมาเหมือนกันและเวลาก็คงที่เหมือนกัน ซึ่งเมื่อเขาแซงผ่านขึ้นไปก็ไม่สามารถหนีเราออกไปได้เหมือนกัน เพราะต่างก็วางแผนการขี่และคุมยางเอาไว้เนื่องจากเกมมันยาวถึง 17 รอบ ผมเองก็ต้องเซฟทั้งในเรื่องของยางและแรงของตัวเอง จนเมื่อเหลือ 4 รอบสุดท้ายทั้งผมและโน้ตต่างกดเวลาด้วยกันแต่ก็ยังทิ้งกันไม่ได้ แต่ยางผมเริ่มมีอาการที่สไลด์เยอะทำให้ในช่วงเปิดคันเร่งเราค่อนข้างจะเสียเปรียบ แต่ก็พยายามเต็มที่แล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะสนามนี้ผมเองก็เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี อยากที่จะคว้าชัยชนะสนามแรกมาเป็นขวัญกำลังใจให้กับทีม แต่ทั้งเราและคู่แข่งก็พยายามกันอย่างเต็มที่แบบสุดๆ แล้ว มันเป็นที่สูสีผมเชื่อว่าปีนี้ได้สู้กันอย่างสนุกแน่นอน รถแข่งก็มีความสมบูรณ์พร้อมมากเพราะมีการปรับเปลี่ยนด้วยกันหลายจุดทั้งกำลังเครื่องยนต์และระบบอิเล็คทรอนิค รวมถึงสภาพร่างกายของผมเองก็ถือว่าฟิตสมบูรณ์มากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสามารถยืนระยะจนถึงรอบสุดท้ายได้แบบสบายๆ โดยเกมสนามต่อไปที่สนามช้างผมค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างแน่นอนครับ ฝากเป็นกำลังใจให้กับผมและทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ด้วยนะครับ”
โซ่ - อานนท์ สังวาลย์ #3
“สำหรับสนามแรกนี้เรามีเวลาซ้อมค่อนข้างเยอะ แต่ไม่สามารถเซ็ทรถได้ลงตัว เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบเบรก ทำให้เสียเวลาไปกับการแก้ปัญาเรื่องเบรกอยู่นานมากๆ ทำให้ไม่มีเวลาในการเซ็ทรถในจุดอื่นๆ มากเท่าไหร่นัก จนถึงในรอบควอลิฟายเราก็ตัดสินใจเสี่ยงเลือกเซ็ทอัพมาเพื่อใช้ในสนามนี้ก่อน อย่างน้อยก็ถือเป็นการดูเกมไปก่อน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะพลาดขนาดนี้ โดยส่วนตัวแล้วสนามนี้ผมก็มาด้วยความมั่นใจเต็มร้อย แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะยังสามารถเก็บแต้มไว้ก่อนได้ แล้วค่อยมาสู้กันใหม่ในสนามหน้าต่อไป ซึ่งสนามหน้าที่สนามช้างนั้น ผมมั่นใจจะสามารถทำได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน และพยายามจะยืนโพเดี้ยมให้ได้ครับ”
นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล
ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
“ปีนี้เป้าหมายหลักของเราอยู่ที่รุ่น SB1 เพราะปีนี้เรามีหลายเรื่องที่ต้องทำ แต่จะโฟกัสไปที่ SB1 ให้ดีที่สุด โดยปีนี้เราได้นำ โซ่ – อานนท์ ซึ่งเป็นแชมป์ในรุ่น ST1 เมื่อปีที่แล้วเข้ามาเสริมทีมทำงานร่วมกับ ซุป – อนุชา ส่วนรถแข่ง R1 ปีนี้ก็ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์และระบบอิเล็คทรอนิคมากขึ้นกว่าในช่วงปีแรกๆ ที่แข่งขัน โดยผสมผสานกับแนวทางของทางยุโรปเข้ามาบ้าง โดยปัญหาหลักของปีที่แล้วก็เป็นเรื่องของยางที่ไม่สามารถยืนระยะได้ดีตลอดทั้งเกม ซึ่งเราก็ได้เรียนรู้เรื่องยางมากขึ้นและมียางให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเราก็เรียนรู้เกี่ยวกับยางได้มากขึ้น โดยปีนี้เครื่องยนต์มีความสมบูรณ์มากขึ้น แต่ยังมีปัญหาในเรื่องของการเซ็ทอัพและปัญหายางที่ยังไม่สมบูรณ์นัก สำหรับวันนี้ทีมเราก็พยายามอย่างหนัก ซึ่ง โซ่ – อานนท์ เองก็พึ่งขยับขึ้นมาในรุ่นนี้ซึ่งรถก็ขี่ยากมากขึ้น และก็ยังเจอกับปัญหาเรื่องเบรกจนแทบไม่ได้ซ้อมอย่างเต็มที่เลย พึ่งจะมาจบได้เมื่อคืนและได้ลองในช่วงวอร์มอัพตอนเช้าซึ่งก็ทำได้ดี แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องเซ็ทอัพที่เปลี่ยนสเตอร์ที่ยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มจากทีมช่างแต่นักแข่งอยากลอง แต่วันนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำเวลาได้ ต่างจากในช่วงของการซ้อม ส่วน ซุป – อนุชา ก็ถือว่าทำได้อย่างเต็มที่ สามารถตามติดโดยไม่ถือทิ้งห่างเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องยางอยู่ โดยหลังจากนี้ก็จะมีการเทสต์ก่อนถึงสนามต่อไป โดยจะทำงานร่วมกับทีมงานของยาง Pirelli อย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาที่เราเจอให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าการแข่งขันที่สนามช้างเราจะทำผลงานได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน...นอกจากนี้ในส่วนของนักแข่งของทีมไทยยามาฮ่า อย่าง ตี – อนุภาพ, เบิร์ด – ประวัฒิ, ต๋ง – พีระพงษ์ และ ฟอง – คณาฑัต เราได้ให้ทั้ง 4 คนได้ลงแข่งขันกับทีมอิสระที่ได้รับการคัดเลือก โดยเราต้องการพัฒนานักแข่งและทีมอิสระไปพร้อมๆ กัน โดยนักแข่งแต่ละคนมีเป้าหมายในปีหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งในปีนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อม และเราต้องการยกระดับทีมอิสระให้ดีกว่าเดิม มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับเกมการแข่งขันในระดับนานาชาติที่มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นอีกเป้าหมายนึงที่เราอยากพัฒนาให้เกิดขึ้นกับวงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา ก็ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้กับนักแข่งและทีมงานไทยยามาฮ่ากันด้วยนะครับ”
21 พ.ย. 2567