Pirelli Diablo Rosso Scooter ยาง High Performance สำหรับสกู๊ตเตอร์ตัวจริง รีวิวการใช้งานจริงกับระยะทางกว่า 3,000 กม. แรก!!!

     หลังจากที่ลองใช้งานยาง “Pirelli Diablo Rosso Scooter” กับ Yamaha XMAX 300 มากว่า 3,000 กม. ในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ผ่านร้อนผ่านฝนและการใช้งานในหลากหลายเส้นทางมาพอสมควรแล้ว...จึงคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่จะมารีวิวการใช้งานของยางสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้กันซะที!!!

     แต่ก่อนที่จะรีวิวการใช้งานจริง...เรามาทำความรู้จักกับ “Diablo Rosso Scooter” กันสักหน่อยดีกว่า เพื่อจะรับทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นของยางรุ่นนี้กันก่อน ซึ่ง Diablo Rosso Scooter นี้ ถูกออกแบบมาเพื่อรถสกู๊ตเตอร์สมรรถนะสูงหรือสปอร์ตสกู๊ตเตอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถใช้งานในเมืองหรือการเดินทางทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้รับการพัฒนาถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากยางสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ใช้สำหรับรถซูเปอร์ไบค์อย่าง Diablo Rosso III ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของสมรรถนะเป็นอย่างมากจากผู้ขับขี่ทั่วโลก ซึ่ง Diablo Rosso Scooter ถือเป็นวิวัฒนาการที่โดดเด่นของ Diablo Rosso III ที่ถูกนำมาใช้กับรถสกู๊ตเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงและสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ ซึ่งได้รวมเอาเทคโนโลยีล่าสุด วัสดุ กระบวนการและความรู้ที่ “PIRELLI” ประสบความสำเร็จในสนามการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามาพัฒนาต่อยอดจนได้เป็น Diablo Rosso Scooter ในที่สุด

     สำหรับ ยาง “Pirelli Diablo Rosso Scooter” ที่ใส่อยู่กับ Yamaha XMAX 300 คู่นี้ มีขนาดยางหน้า 120/70/15 และยางหลัง 150/70/14 (ใหญ่กว่ายางหลังติดรถที่มีขนาด 140/70/ 14 อยู่ 1 ไซส์ ซึ่งยางหลังของ Diablo Rosso Scooter จะมีเนื้อยาง  2 คอมปาวด์ในเส้นเดียวกัน ใช้รูปแบบโปรไฟล์ ลายยาง และ คอมปาวด์แบบเดียวกับ Diablo Rosso III โดยยางหลังของ Diablo Rosso Scooter  คอมปาวด์ยางตรงกลางถูกออกแบบมาเพื่อให้ยึดเกาะได้ดีบนพื้นแห้ง ส่วนคอมปาวด์ยางด้านข้างจะเป็นเนื้อซิลิก้าที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนพื้นเปียกโดยเฉพาะ

     โดยยาง “Pirelli Diablo Rosso Scooter” ชุดนี้ เราได้จัดการเปลี่ยนใส่ที่ ร้าน โชว์พาว เพอร์ฟอร์แมนซ์ ช็อป (อ่อนนุช) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายยาง Pirelli และมีการบริการที่ได้มาตฐาน โดย “ความรู้สึกแรก” ที่ได้ลองขับขี่ XMAX คู่ใจที่ได้ใส่ยางคู่นี้ คือ “ความนุ่มนวล” ที่รู้สึกแตกต่างจากยางเดิมติดรถได้อย่างชัดเจน อาการกระด้างที่เคยมีจากยางเดิมนั้น หายไปเลย!! เรารู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลแม้นเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วก็ตาม อีกทั้งยังให้ความรู้สึกการยึดเกาะพื้นถนนตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ลองขับขี่ แม้ทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำว่าควรขับขี่เพื่อเปิดหน้ายางสักประมาณ 20 กม. ก็ตาม อีกทั้ง “ความกลมของหน้ายาง” ที่กลมกว่ายางเดิมยังทำให้การเข้าโค้ง การเอียงรถ ทำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่รู้สึกฝืดเหมือนเดิม แม้ในช่วงแรกอาจจะออกอาการเหวอเล็กน้อยในเวลาเอียงรถที่มันลงได้เร็วกว่าเดิม แต่พอปรับตัวและเข้าใจกับลักษณะนิสัยของยางแล้ว จากอาการเหวอจะกลายเป็นความสนุกและความมั่นใจในการเข้าโค้งแทนทันที!!

     จากการใช้งาน Yamaha XMAX 300 ที่ใส่ยาง “Pirelli Diablo Rosso Scooter” ในชีวิตประจำวันทุกวัน ทำให้เราสัมผัสได้ถึงเนื้อยางที่ให้การยึดเกาะตั้งแต่วินาทีแรกที่ขับขี่ เรียกว่าสตาร์ทเครื่องยนต์ ยาง Diablo Rosso Scooter ก็พร้อมที่จะยึดเกาะถนน สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในทันที ซึ่งตั้งแต่ระยะกิโลเมตรแรกจนถึงวันนี้ที่มีระยะทางการใช้งานกว่า 3,000 กม. แล้ว คุณภาพของเนื้อยางยังคงให้ความรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งในเรื่องของความนุ่มนวลและการยึดเกาะพื้นถนนที่รู้สึกได้ว่า “หนึบ” จริงๆ นอกจากนี้การขับขี่ด้วยยาง Diablo Rosso Scooter ในวันที่ฝนตก พื้นถนนเปียก เราก็ยังรู้สึกได้ถึงการยึดเกาะที่ดี ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและเต็มไปด้วยความมั่นใจ

     นอกจากจะให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยการยึดเกาะพื้นถนนอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว “Pirelli Diablo Rosso Scooter” ยังช่วงให้การเบรกและการหยุดรถมีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้นด้วย เพราะหน้ายางสามารถยึดเกาะพื้นถนนได้หนึบในทุกจังหวะที่ต้องเบรกหยุดรถ ไม่มีอาการลื่นไถลของยางให้เสียการควบคุมแม้แต่น้อย

     สำหรับในเรื่องของการสึกหรอของยางหลังจากที่ผ่านการใช้งานมาแล้วกว่า 3,000 กม. ต้องบอกว่าถ้าไม่บอกว่าใช้งานมาเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว เรายังนึกว่าเป็นยังที่พึ่งเปลี่ยนมาใช้งานได้ไม่นาน เพราะสภาพของเนื้อยาง ดอกยาง ยังคงมีสภาพเกือบจะเหมือนของใหม่เลยทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะด้วยความนุ่มนวล การยึดเกาะที่หนึบ การขับขี่ที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาตลอดระยะเวลาการใช้งานกว่า 4 เดือน ยางกลับยังคงมีสภาพที่ดีและมีความสดใหม่เหมือนพึ่งแปลี่ยนออกมาจากเลย แถมยังคงประสิทธิภาพและสมรรถนะของยางเอาไว้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย...

          หลังจากนี้ “Pirelli Diablo Rosso Scooter” จะยังคงอยู่ประจำการกับ Yamaha XMAX 300 ต่อไป...เราจะกลับมารีวิวอีกครั้งเมื่อขับขี่ด้วยยางคู่นี้จนถึงระยะ 10,000 กม. ซึ่งถึงตอนนั้นเราคงได้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของยางรุ่นนี้อีกมากมายอย่างแน่นอน!!!