Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 56223 จำนวนผู้เข้าชม |
XMAX 300 ถือว่าเป็นที่สุดของรถจักรยานยนต์ออโตเมติกในเมืองไทยในขณะนี้ ซึ่งได้รับกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้ขับขี่ที่ต้องการรถในแบบ “สปอร์ตเมติก” ที่สามารถตอบสนองทั้งในเรื่องของสมรรถนะความแรง ความเร้าใจ และความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยฟีจเจอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ให้มาแบบเต็มคันเลยทีเดียว
สำหรับโปรเจ็ค “XMAX…Press Touring Trip @ ChiangMai” นี้ จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความเป็นที่สุดของสปอร์ตเมติกรุ่นนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเชิญชวนสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์ที่เป็น “เจ้าของ XMAX” ร่วมขับขี่ท่องเที่ยวสัมผัสลมหนาวกันที่ จ.เชียงใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Nothing But The MAX” ซึ่งทุกคันที่มาร่วมทริปเดินทางนั้นก็มาแบบ “เต็ม MAX” เช่นกัน
โดยทริปนี้ XMAX คันเก่งของแต่ละคนจะถูกขนส่งจากกรุงเทพฯ ไปยังเชียงใหม่ด้วยรถ Toll ส่วนผู้ขับขี่และทีมงานเดินทางด้วยการนั่งเครื่องบินตามไปทีหลัง ระยะเวลาของทริปนี้คือ 3 วัน 2 คืน ซึ่งเริ่มสตาร์ทการเดินทางทริปนี้กันที่กลางใจเมืองเชียงใหม่ ณ ร้านยามาฮ่า สแควร์ เจริญมอเตอร์ สำนักงานใหญ่ โดยทริปนี้มี XMAX เจ้าถิ่นอย่าง “ปอ ล้อโต” ร่วมขบวนเดินทางด้วย 1 คัน รวมแล้วมี XMAX ทั้งหมด 9 คัน ที่พร้อมจะตะลุยทริปสุด MAX ไปด้วยกัน
จุดหมายแรกหลังจากที่รับ XMAX แล้วไปรับทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยก็คือ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย สักการะสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเครื่องยนต์ขนาด 292 ซีซี. ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ยุคใหม่อย่าง BLUE CORE จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดก็ถูกรีดเค้นพลังออกมาแบบเต็มพิกัด เพื่อพาเดอะแก๊งค์สุด MAX ในทริปนี้ทะยานมุ่งหน้าสู่ “ม่อนแจ่ม” ที่อยู่ใน อ.แม่ริม ซึ่งเครื่องยนต์ของ XMAX ก็สามารถตอบสนองต่อการกระชากคันเร่งได้แบบติดมือ ให้อัตราเร่งที่สุดเร้าใจ ทำให้ในช่วงทางตรงโล่งๆ ยาวๆ เต็มไปด้วยความมันส์ ก่อนที่จะมาเจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในตัวเมืองแม่ริม แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับ XMAX ซึ่งเป็นรถคู่ใจคันเก่งของแต่ละคน เพราะสามารถที่จะพามุดซอกแซกไปตามช่องว่างระหว่างรถยนต์ที่จอดติดได้แบบคล่องแคล่วว่องไว เรียกว่าเพรียวกันแบบสุดๆ เลยละกัน!!
เมื่อหลุดจากตัวแม่ริมขบวน XMAX ก็ขึ้นสู่ดอยม่อนแจ่มซึ่งเป็นช่วงของทางบนเขา ทำให้ทุกคนต่างเพลิดเพลินไปกับการเทโค้งกันมาก เพราะนอกจากรถของเราจะปรับเซ็ทช่วงล่างกันมาแล้ว ช่วงตัวรถที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีก็ช่วงทำให้เราสามารถที่ใส่กันในโค้งได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ก่อนที่จะหยุดพักชมวิวกันที่ Canopy Walkway ซึ่งเป็นทางเดินที่ก่อนสร้างเป็นสะพานเหล็กที่อยู่เหนือยอดไม้บนความสูงกว่า 20 เมตร ภายในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จากนั้นจึงเดินทางไปมันส์แบบต่อกันที่ โป่งแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ลโคสเตอร์ ซึ่งมีกิจกรรมให้ได้สนุกเร้าใจกันแบบเต็มแม็กซ์ ไมว่าจะเป็นจังเกิ้ลโคสเตอร์ รถไฟเหาะรางไม้แห่งแรกในเมืองไทย, ซิปไลน์ที่ต้องโหนสลิงข้ามหุบเขา เป็นต้น ทำให้เดอะแก๊งค์ได้สนุกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากทีเดียว
และหลังจากที่มันส์กันจนเต็มเหนี่ยวแล้ว ขบวน XMAX ก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อเข้าพักกันที่ The Best Camp โดยช่วงนี้ XMAX ต้อถูกทดสอบพละกำลังเครื่องยนต์ในการไต่ระดับความสูงขึ้นดอยม่อนแจ่มอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับสปอร์ตเมติกสายพันธุ์ MAX แม้แต่น้อย!! เพราะเราสามารถที่จะบิดคันเร่งทะยานไปตามโค้งและความสูงชันของขุนเขาทางภาคเหนือได้แบบสบายๆ ไม่ต้องลุ้นว่าจะหมดกำลังหรือไม่ เพราะไม่ว่าทางขึ้นจะลาดชันแค่ไหน แค่ผู้ขับขี่บิดคันเร่ง XMAX ของเราก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานไปในทันทีตามที่ใจต้องการ
เมื่อเช็คอินเข้าที่ The Best Camp ที่พักแบบเต๊นท์กระโจมสุดหรู ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาและสามารถชมทัศนียภาพทิวเขาด้านล่างได้แบบ 180 องศาเรียบร้อยแล้ว สมาชิกต่างก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย โดยบางคนก็นำ XMAX คู่ใจไปขี่เล่นชมวิวบริเวณใกล้ๆ ที่พัก บางคนก็นั่งเล่นนอนเล่น ถ่ายภาพลงโซเซี่ยลอวดเพื่อน ก่อนที่จะมาปาร์ตี้หมูกะทะในสภาพอากาศกำลังเย็นสบายท่ามกลางหมู่ดาวเต็มท้องฟ้าและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแห่งความชื่นมื่นของสมาชิกที่ร่วมเดินทาง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เรียกได้ว่าฟินน์กันสุดแม็กซ์จริงๆ...
รุ่งเช้าวันใหม่สมาชิกเดอะแก๊งค์สุด MAX ต่างลุกตื่นขึ้นมาสัมผัสกับอากาศยามเช้าที่แสนสดชื่นและชมความสดใสของทิวทัศน์หลักล้านที่เพียงแค่เปิดเต๊นท์มาออกมาก็เจอแล้ว!!! หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าด้วยข้าวต้มร้อนๆ และเก็บสัมภาระเสื้อผ้ายัดใส่ใน X-Box ที่มีพื้นที่สุดกว้างกันเรียบร้อย ขบวนทัวริ่งสปอร์ตเมติกสายพันธุ์ MAX ก็พร้อมออกเดินทางสู่จุดหมายที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในทริปนี้ นั่นคือ จุดชมวิวสะเมิง โดยเส้นทางจากที่พักจนถึงจุดหมายแรกของวันนี้นั้น XMAX คู่ใจของเราต้องเจอกับเส้นทางที่เป็นทางคดโค้งหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังต้องขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเส้นทางอีกด้วย…แต่หาได้เป็นอุปสรรคแม้แต่น้อย เพราะด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่มีอย่างเหลือเฟือ ช่วงรถที่ลงตัว บวกกับการเซ็ทอัพช่วงล่างกันมาแบบเต็มพิกัด ทำให้สมาชิกแต่ละคนในทริปนี้วาดลีลาการเข้าโค้งกันอย่างสนุกและมันส์เต็มอารมณ์แบบเดียวกับรถสปอร์ตกันเลยทีเดียว
เมื่อมาถึง จุดชมวิวสะเมิง เราก็ยังสามารถชมสายหมอกที่ลอยเป็นแพอยู่เบื้องล่าง ทำให้ชาวแก๊งค์พันธุ์ X ต่างเก็บภาพและชื่นชมทัศนียภาพกันด้วยความคึกคัก หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ที่จุดชมวิวชื่อดังแห่งนี้กันอยู่พักใหญ่ ขบวนทัวริ่ง XMAX จึงออกเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงขาลงเขานี้เราก็ยังคงได้สนุกกับการขับขี่บนเส้นทางที่ร่มรื่นและมีทิวทัศน์สวยงามมาโดยตลอด จนกระทั้งถึงพื้นราบในตัวแม่ริมคันเร่งของ XMAX คู่ใจก็ถูกกระชากเต็มพิกัดอีกครั้ง ความเร็วในการเดินทางช่วงทางราบรอบนี้ยืนพื้นอยู่แถวๆ 100-120 กม./ชม. ซึ่งเครื่องยนต์ก็สามารถตอบสนองได้แบบสบายๆ แถมยังมีคันเร่งเหลือในมือให้ได้กดคันเร่งกันต่อเพื่อใช้ในการเร่งสปีดขึ้นไปตามที่ใจต้องการอีกด้วย
และเพียงแค่ชั่วเวลาไม่ถึงชั่วโมงสมาชิกเดอะแก๊งค์สุด MAX ก็มาถึง ร้านลานดิน ร้านกาแฟสุดชิลล์ที่อยู่ภายใต้ร่มไม้อันร่มรื่น ทำให้พวกเรานั่งชิลล์พูดคุยถึงเรื่องราวระหว่างการเดินทางในทริปนี้ที่ผ่านมา ซึ่งสมาชิกทั้งหมดต่างก็รู้สึกเหมือนกันคือ “ไม่ผิดหวัง” ที่ได้เป็นเจ้าของ XMAX และกลับยิ่งหลงใหลรถของตัวเองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนการปรับแต่งเซ็ทอัพต่างๆ เพื่อเสริมหล่อและสมรรถนะให้กับรถคู่ใจให้ดียิ่งขึ้นกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย…เมื่อถึงเวลาเที่ยงขบวนของเราจึงออกเดินทางต่อไปที่ร้านอาหาร ข้าวเม่าข้าวฟาง ซึ่งอยู่ห่างไปเพียงแค่ 10 นาที เพื่อรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางบรรยากาศที่ตกแต่งให้อยู่กลางธรรมชาติ ป่าไม้ น้ำตก พร้อมกับอาหารหลากหลายชนิดที่สั่งกันมาแบบเต็มแม็กซ์ ทำให้สมาชิกร่วมเดินทางต่างอิ่มท้องกันแบบตัวจะแตกกันเลยทีเดียว
จากนั้นขบวนทัวริ่ง XMAX ก็ออกเดินทางเข้าเช็คอินที่ YesterDay โรงแรมที่ออกแบบได้อย่างสวยออกแนวโคโลเนียล ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางถนนนิมมาน ก่อนที่จะพักผ่อนตามอัธยาศัยเพื่อรอเวลาออกไปเก็บบรรยากาศยามเย็นในตัวเมืองเชียงใหม่กันต่อ...ซึ่งในช่วงประมาณบ่าย 4 โมง เดอะแก๊งค์สุด MAX ก็พร้อมตะลุยเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง โดยจุดหมายแรกอยู่ที่ วัดสวนดอก เพื่อเก็บภาพแสงอาทิตย์ส่องกระทบกับเจดีย์สีทอง ซึ่งเป็นภาพที่หลายคนอาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อนแม้ว่าจะมาเยือนเชียงใหม่กันหลายต่อหลายครั้งแล้วก็ตาม
เมื่อเก็บภาพความสวยงามยามเย็นที่วัดสวนดอกกันจนถึงเวลาสมควร ขบวนทัวริ่ง XMAX ก็ตั้งแถวเคลื่อนตัวออกจากวัดเพื่อขับขี่ซิตี้ทัวร์ไปรอบๆ ตัวเมืองเชียงใหม่กันเล็กน้อย ซึ่งทำให้เจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัดพอสมควร แต่ด้วยความคุ้นเคยกับรถ XMAX คู่ใจของแต่ละคนกันอยู่แล้ว จึงทำให้เราสามารถที่จะมุดผ่านตามช่องว่างระหว่างรถยนต์ไปได้อย่างคล่องตัวชนิดแบบที่เรียกได้ว่า “พลิ้ว” กันเลยทีเดียว ก่อนจะมุ่งหน้าไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Good View สาขา 2 ร้านอาหารชื่อดังที่นอกจากมีอาหารที่แสนอร่อยแล้ว ยังมีการตกแต่งร้านที่สวยงามอลังการเป็นอย่างมาก ทำให้มื้อนี้สมาชิกเดอะแก๊งค์สุด MAX อิ่มท้องและอิ่มตาไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว
ปิดท้ายวันอันแสน MAX กันด้วยการที่เดอะแก๊งค์สุด MAX ขับขี่ XMAX ท่องราตรีชมแสงสีเมืองเชียงใหม่แบบชุดใหญ่ เริ่มต้นจากการไปชมแสงไฟที่ “ขัวเหล็ก” หรือสะพานนวรัฐจำลอง เป็นสะพานเหล็กที่จำลองสะพานนวรัฐมานั่นเอง ซึ่งได้รับการประดับประดาด้วยไฟหลากหลายสีสันอย่างสวยงาม ก่อนที่จะไปวนรอบคูเมืองที่สว่างไสวด้วยไฟระย้า และส่งท้ายกันที่แสงสีและความคึกคักที่ถนนนิมมาน ก่อนที่จะกลับที่พักที่โรงแรม YesterDay ซึ่งอยู่บริเวณกลางถนนสายนิมมานนั่นเอง
และก็มาถึงวันสุดท้ายของทริปสุด MAX กันด้วยการที่สมาชิกเดอะแก๊งค์สุด MAX ตื่นกันตั้งแต่ตี 5 พร้อมกับขับขี่ XMAX คู่ใจออกจากที่พัก มุ่งหน้าขึ้นสู่ จุดชมวิว 2 บนดอยสุเทพ เพื่อเก็บภาพและบรรยากาศแสงแรกของวันที่เบื้องล่างมีแบ็คกราวน์เป็นตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งการขับขี่ขึ้นดอยในช่วงเช้ามืดและอากาศเย็นแบบนี้ เครื่องยนต์ของ XMAX ก็ยังคงตอบสนองต่อการบิดคันเร่งได้แบบรอบเครื่องไม่มีสะดุดแม้แต่น้อย ทำให้เราสามารถไต่ระดับความสูงขึ้นไปได้แบบสบายๆ อีกทั้งเรายังได้สัมผัสกับความสว่างของไฟหน้าที่เจิดจ้าทำให้เส้นทางที่มืดสนิทสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มชัดในทุกมุมมอง ส่วนไฟท้ายนั้นก็ชัดเจนหายห่วงสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ระยะไกลเลยทีเดียว
เมื่อถึงจุดหมายสมาชิกเดอะแก๊งค์สุด MAX ก็จัดเรียง XMAX คู่ใจอย่างเป็นระเบียบ ก่อนที่จะนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องราวการเดินทางในทริปนี้ระหว่างที่รอแสงแรกของวัน ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกหลงใหล XMAX คู่ใจของตัวเองกันมากยิ่งขึ้น เพราะการที่ได้ออกเดินทางในทริปนี้ทำให้ได้สัมผัสกับสมรรถนะที่แท้จริงของสปอร์ตเมติกรุ่นนี้มากยิ่งขึ้น ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ผิดหวัง” ที่เลือก XMAX มาเป็นพาหนะคู่ใจ และรู้สึกรักมันสุด MAX จริงๆ!!! หลังจากได้ภาพแสงแรกของวันเรียบร้อย ขบวน XMAX ก็ทิ้งดิ่งลงดอยสุเทพด้วยฟิลลิ่งสุดมันส์เป็นการส่งท้าย และก่อนเข้าที่พักได้แวะร้าน โจ๊กต้นพยอม เพื่อเช็คอินร้านดังของเมืองเชียงใหม่พร้อมกับฝากท้องมื้อเช้ากันที่นี่ซะเลย
หลังจากเก็บของเช็คเอ้าท์จากที่พัก สมาชิกเดอะแก๊งค์สุด MAX ก็นำ XMAX คู่ใจไปฝากไว้ที่ร้านเจริญมอเตอร์ เพื่อเตรียมขนส่งกลับกรุงเทพฯ ส่วนเจ้าของยังคงเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่ วัดอุโมงค์ เพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องบินกลับสู่กรุงเทพฯ ในช่วงเย็น...เป็นอันปิดทริปสุด MAX ในครั้งนี้!!! ซึ่งต้องบอกว่าทริป XMAX…Press Touring Trip @ ChiangMai นอกจากจะทำให้ได้สัมผัสกับเรื่องราวต่างๆ ในแบบมันส์สุด MAX แล้ว ยังทำให้เจ้าของ XMAX ที่ร่วมในทริปนี้ได้รู้จักกับตัวตนที่แท้จริงว่า XMAX ของตัวเองมีสมรรถนะที่สุด MAX จริงๆ…Nothing But The MAX !!!
30 พ.ย. 2566
7 ธ.ค. 2566