BLUE CORE เทคโนโลยีใหม่! ในเครื่องยนต์ยุคใหม่ของรถจักรยานยนต์ YAMAHA

Last updated: 3 ต.ค. 2567  |  256 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BLUE CORE เทคโนโลยีใหม่! ในเครื่องยนต์ยุคใหม่ของรถจักรยานยนต์ YAMAHA

   เทคโนโลยี BLUE CORE คือ เทคโนโลยีใหม่ในเครื่องยนต์ยุคใหม่ของรถจักรยานยนต์ Yamaha ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ขับขี่ทั้งในเรื่องของ “ความประหยัดและสมรรถนะที่ดีขึ้น” โดย Yamaha ได้วางหลักการของเครื่องยนต์ BLUE CORE ไว้ 3 อย่างด้วยกัน คือ

1. เพิ่มประสิทธิภาพของการเผาไหม้ เพื่อสมรรถนะในการขับขี่แบบ “Fun & Eco”

โดยคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ BLUE CORE นอกจากจะมีประสิทธิภาพในเรื่องของการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังมาพร้อมกับ “อัตราส่วนกำลังอัด” ที่เหมาะสม โดยยามาฮ่าได้ทำการออกแบบรูปทรงของห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์, ช่องไอดี และการจุดระเบิดที่สมบูรณ์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงภายในกระบอกสูบหมดจด ซึ่งจะส่งผลให้ได้พละกำลังจากเครื่องยนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพและสามารถส่งกำลังมายังระบบขับเคลื่อนได้อย่างเต็มสมรรถนะ โดยจะยังคงประสิทธิภาพในการการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม



โดยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ BLUE CORE ได้มีการเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เพื่อการเผาไหม้ที่มีคุณภาพสูง ในขณะที่รถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นอื่นๆ จะมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ประมาณ 9.5:1 ซึ่งเมื่อกําลังอัดสูงขึ้น การระเบิดในห้องเผาไหม้ก็ยิ่งรุนแรงกว่าเดิม ทําให้ได้แรงบิดสูงในรอบต่ำ และมีการปรับชุดพู่เล่ย์และคลัทช์ใหม่เพื่อให้สามารถตอบสนองกําลังที่มากขึ้นโดยใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลง

2. ลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ น้ำหนักเบา จึงใช้พลังงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ

เนื่องจากเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ยามาฮ่าจึงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานที่ได้จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงได้อย่างเต็มที่ โดยลดการสูญเสียพลังงานที่อาจเกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์ลงให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด ด้วยเหตุนี้ ยามาฮ่าจึงได้ออกแบบและพัฒนาโลหะที่ใช้ในทุกชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ให้มีน้ำหนักเบาที่สุด เพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทานลงให้น้อยที่สุด ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมกับการจุดระเบิดอย่างแม่นยำ และหลักสำคัญของการลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์นั้น อยู่ที่การลดแรงเสียดทานโดยการออกแบบให้ตัวกระบอกสูบมีระยะเยื้องศูนย์กับแนวเส้นผ่าศูนย์กลางของเพลาข้อเหวี่ยง เพื่อช่วยในการลดแรงเสียดทานระหว่างลูกสูบกับผนังกระบอกสูบ ช่วยให้รองรับแรงอัดที่มากขึ้นในจังหวะระเบิด และลดการสูญเสียแรงลง โดยการออกแบบนี้ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เรียบ ใช้น้ำมันอย่างคุ้มค่าและเครื่องยนต์ทำงานเงียบมากยิ่งขึ้น



3. เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เพื่อการขับขี่ที่เต็มขุมพลัง

การที่เครื่องยนต์จะทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในสภาวะการขับขี่ที่แตกต่างกันได้นั้น จะต้องอาศัยประสิทธิภาพในการระบายความร้อน เพื่อควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมอยู่เสมอ หากเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ด้วยเหตุนี้ ยามาฮ่าจึงได้ออกแบบเครื่องยนต์ BLUE CORE ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือน้ำ ก็สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ได้อย่างเต็มสมรรถนะ โดยเครื่องยนต์ BLUE CORE ใช้กระบอกสูบแบบไดอะซิล ซึ่งช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่าเสื้อสูบแบบธรรมดาถึง 3 เท่า และเมื่อมีกำลังอัดที่เยอะขึ้นเป็น 11:1 ที่จัดว่าสูงที่สุดในบรรดารถที่มีการระบายความร้อนด้วยอากาศ จึงปรับปรุงระบบระบายความร้อนโดยให้ครีบระบายความร้อนให้ถี่ขึ้นและหนาแน่นมากขึ้น พัดลมดูดอากาศดีขึ้น มีพลาสติกคุมการไหลของอากาศไปยังจุดที่ต้องการระบายความร้อน และมีหัวฉีดน้ำมันหล่อลื่นใต้ลูกสูบอีกด้วย



   โดยทั้ง 3 อย่างนี้ จะช่วยทำให้รถจักรยานยนต์ของ Yamaha “เร็วแรง ประหยัด รักษ์โลก” ซึ่งขุมกำลังของเครื่องยนต์ BLUE CORE มีอยู่ในรถจักรยานยนต์ Yamaha หลายๆ รุ่น โดยเฉพาะรถออโตเมติค ไม่ว่าจะเป็น Yamaha FAZZIO, Yamaha Grand Filano, Yamaha AEROX และ Yamaha NMAX เป็นต้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้